1:สิวบอกโรค !? 😱😧 สิวขึ้นตรงนี้ หมายความว่าไง!!
เฮโหลลลลลสวัสดีค่าเพื่อนๆทุกคน🥰
เวลาที่เราเป็นสิวเคยสงสัยกันบ้างไหมคะว่าทำไม?เราก็ไม่ได้ไปโดนอะไรทำอะไรที่สกปรกบริเวณนั้นสักหน่อยแต่กลับสิวขึ้นบ่อยสิวขึ้นไม่เป็นที่เพราะนอกจากความสกปรกแล้วเรื่องของมลภาวะสิ่งแวดล้อมต่างๆฮอร์โมนกรรมพันธุ์หรือประเภทของผิวก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวได้ง่ายๆและยังบกบ่องได้ถึงปัญหาสุขภาพภายในได้ด้วยนะ
•สิวที่หน้าผาก💕
สิวที่ขึ้นตรงหน้าผากทั้งสองด้าน
เกิดได้จากสองสาเหตุหลักๆคือการที่เราแต่งหน้าแล้วล้างเมคอัพไม่สะอาดรวมไปถึงเป็นสัญญาณเตือนถึงระบบย่อยอาหารกระเพาะปัสสาวะ
และต่อมหมวกไตถ้าระบบการทำงานอวัยวะเหล่านี้
ทำงานได้ไม่เต็มที่สิวที่หน้าผากก็จะผุดขึ้นมาค่ะ
📌วิธีแก้
ดื่มน้ำสะอาด6-8แก้วต่อวัน
เลี่ยงกาแฟแอลกอฮอล์น้ำอัดลม
•สิวระหว่างคิ้ว💕
สิวที่ขึ้นตรงนี้จะเตือนว่าระบบการทำงาน
ของตับเราทำงานได้ไม่ปกติอาจจะมีสาเหตุมาจาก
การย่อยแลคโทสที่เกิดจากการดื่มนมแล้วไม่ย่อยกินอาหารรสจัดเกินไปหรือเป็นคนชอบกินมื้อดึกบ่อยๆ
📌วิธีแก้
เลือกกินเป็นนมถั่วเหลืองน้ำเต้าหู้แทน
กินน้ำมันตับปลาและเน้นผักใบเขียวในมื้ออาหาร
ลดการกินอาหารรสจัดทานอาหารให้เป็นเวลาไม่กินดึก
•สิวบริเวณรอบดวงตา💕
สิวบริเวณนี้อาจจะบ่งบอกได้ว่าไตเราทำงานไม่ดีหรือเราดื่มน้ำไม่เพียงพอรวมไปถึงการใส่แว่นที่ไม่ค่อยได้เช็ดได้ทำความสะอาดด้วย
📌วิธีแก้
ดื่มน้ำสะอาด6-8แก้วต่อวัน
กินผักผลไม้ที่มีวิตามินเอวิตามินซีซึ่งจะมีมากในผักผลไม้จำพวกสีแดงสีเขียวและสีเหลือง
ใครที่ชอบใส่แว่นเป็นประจำก็หมั่นดูแลทำความสะอาดแว่นตาบ่อยๆ
•สิวบริเวณจมูก💕
อีกหนึ่งบริเวณที่เจ็บมากๆเวลาเป็นเลยก็คือจมูกนั้นเองค่ะหากเป็นสิวสีแดงปลั่งๆอาจเป็นการเตือนโรคความดันโลหิตสูงถ้าหากมีสิวอุดตันสิวหัวดำเยอะๆอาจบอกถึงผลกระทบจากฮอร์โมนเช่นกำลังมีประจำเดือนเข้าสู่วัยทองหรือกินยาคุม
📌วิธีแก้
เลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงอาหารรสเค็ม
ควรกินอาหารที่มีเส้นใยธัญพืช
•สิวบริเวณแก้ม💕
สิวที่ใครหลายคนเป็นบ่อยที่สุด
แก้มส่วนบน☺️
-ถ้าสิวขึ้นที่แก้มส่วนบนแสดงว่าระบบไซนัสและปอดอาจจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพส่วนใหญ่สิวตรงนี้จะเกิดขึ้นกับคนที่สูบบุหรี่แพ้ควันบุหรี่หรือเป็นหวัดเรื้อรัง
แก้มส่วนล่าง☺️
-อาจบ่งบอกถึงกำลังมีปัญหาส่วนสิวที่ขึ้นตรงตําแหน่งสิวบอกโรคได้ถึงปัญหาสุขภาพช่องปากคือเราอาจจะมีฟันผุเจ็บเหงือกหรือใช้โทรศัพท์มากเกินไปแล้วไม่ได้ทำความสะอาดดีๆ
📌วิธีแก้
ดูแลทำความสะอาดผิวหน้าและมือถือบ่อยๆ
เลี่ยงอาหารแปรรูปกินธัญพืชเนื้อปลา
กินอาหารที่มีวิตามินซีนมผักใบเขียว
•สิวบริเวณปาก💕
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายโดยเฉพาะสาวๆที่กำลังมีรอบเดือนหรือการเช็ดล้างเครื่องสำอางเมคอัพลิปสติกได้ไม่สะอาดรวมไม่ถึงคราบอาหารหลังทานที่ไม่ทำความสะอาดช่องปากหรือบ้วนปากหลังกินเสร็จด้วย
📌วิธีแก้
ควรกินอาหารที่มีกากใยสูง
เลี่ยงของหวานที่มีน้ำตาลสูง
ทำความสะอาดบ้วนปากล้างปากทุกครั้งหลังทานข้าวหรือขนม
•สิวบริเวณคาง💕
หากสิวขึ้นบริเวณนี้อาจจะบ่งบอกเรื่องเกี่ยวกับทางเดินอาหารหรือกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กทำงานผิดปกติซึ่งส่วนใหญ่สิวตรงนี้เกิดจากการกินอาหารรสจัดมากเกินไปซึ่งอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะได้และการกินอาหารที่ไม่ถูกกับลำไส้ก็จะทำให้ลำไส้เล็กของเราดูดซึมอาหารไม่เป็นปกติ
📌วิธีแก้
กินอาหารรสจัดให้น้อยลง
เน้นกินผักใบเขียวที่มีเส้นใยอาหารเยอะ
เอาเป็นว่าใครที่เอ๊ะ!ใจมีปัญหาสิวขึ้นที่เดียวซ้ำๆล่ะก็ลองสังเกตุตัวเองกันดูได้นะคะทางที่ดีเน้นการทานอาหารที่มีประโยชน์เน้นทานผักใบเขียวอาหารที่มีเส้นใยสูงลดความหวานและของมันรวมไปถึงอาหารรสจัดจะดีที่สุด
2:ไม่อยากเป็นสิว เลิกทำสิ่งเหล่านี้😖
มีอีกหลายปัจจัยเยอะมากที่เป็นสาเหตุให้เป็นสิวเช่นฮอร์โมนจับโทรศัพท์หน้าจอสกปรกนอนทั้งๆที่ไม่ล้างหน้าทาครีมแล้วไม่เช็ดคลีนซิ่งการกินการนอนและระบบต่างๆในร่างกายไม่สมดุลทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้นลองไปปรับใช้ดูนะคะ🥰
3:อาหารที่ทำให้สิวหายช้าลง
วันนี้อายมาบอกต่ออาหาร5ชนิดที่ทำทำให้สิวหายช้าลง
มีอะไรบ้างไปดูกันเลยยย⬇️⬇️
1.ของหวาน🍰🍩🍫
-เมื่อร่างกายได้รับของหวานเข้าไปความหวานจะแปรสภาพเป็นกรดและกรดนี้เองที่ทำให้เซลล์เกิดการอักเสบทำให้คนที่เป็นสิวอยู่หายช้าลงนั่นเอง📌
2.ชากาแฟ☕🍵
-จะกระตุ้นให้มีการปัสสาวะบ่อยจะทำให้ร่างกายขาดน้ำได้และเมื่อร่างกายขาดน้ำก็จะส่งผลให้สิวหายช้านั่นเอง😪
3.แอลกอฮอล์🍺🍻
เมื่อเราเอาแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายมากเกินไปจะทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายของเราลดลงทำให้ขาดสมดุลเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสิวและทำให้สิวหายช้าลง
4.อาหารที่ทำจากนมวัว🐄🍼🥛
-ใครที่เป็นสิวอยู่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มนมวัวหรืออาหารที่มีส่วนผสมของนมวัวเพราะในน้ำนมมีฮอร์โมนขนิดหนึ่งไปกระตุ้นสิวจนทำให้สิวไม่หายสักที😢
5.อาหารประเภทโปรตีน🐖🐔
-เน้นไปที่เนื้อสัตว์เช่นเนื้อวัวเนื่อหมูเนื้อไก่ก็ส่งผลให้สิวหายช้าลงได้ค่ะเลี่ยงได้เลี่ยง❌
4:How to รู้จักสิวและวิธีแก้ไขที่ถูกต้อง ✨
ประเภทของ“สิว”พร้อมสาเหตุที่เกิดขึ้นวิธีป้องกันและรักษาที่ถูกต้อง
🍋จากการศึกษาของพบว่าถ้าจะให้จำแนกประเภทของสิวออกเป็นหมวดใหญ่ๆจะสามารถแบ่งได้สองหมวดคือสิวอุดตัน(สิวที่ไม่อักเสบ)และสิวอักเสบซึ่งทั้งสองอย่างนี้ค่อนข้างมีความแตกต่างกันนะหลายๆคนมักจะเรียกสิวอุดตันว่าสิวอักเสบไปด้วยแต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะต้องระวังการเรียกให้ดีๆไม่อย่างนั้นสกินแคร์ที่นำมารักษาอาจรักษาไม่ตรงจุดได้ซึ่งสิวอุดตันและสิวอักเสบจะแตกต่างกันอย่างไรนั้นเดี๋ยวมาดามเล่าให้ฟัง
‼️สิวอุดตัน(non-inflammatoryacne)
สิวอุดตันคือสิวที่เกิดการอุดตันที่รูขุมขนหรือคอมีโดน(comedone)แต่จะไม่มีการอักเสบร่วมด้วยสามารถแยกย่อยได้อีก2ชนิดคือ
1.สิวหัวดำ(Blackheads)
สิวหัวดำหรือสิวหัวเปิดเป็นสิวขนาดเล็กที่อุดตัวอยู่ในรูขุมขนที่ทำปฏิกิริยากับสารเมลานินหรือเม็ดสีที่เซลล์ผิวหนังทำให้เปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อลูบไปโดนจะรู้แข็งๆสากๆไม่มีอาการเจ็บปวดสาเหตุการเกิดส่วนใหญ่นั้นมาจากหลายสาเหตุอาทิความเครียดร่างกายผลิตไขมันมาหล่อเลี้ยงใบหน้ามากเกินไปและอื่นๆอีกมากมาย
💡วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวดำ
-ล้างหน้าให้สะอาดอยู่เสมอใครที่ผิวแพ้ง่ายให้ใช้โฟมล้างหน้าที่มีความอ่อนโยน
-ล้างมือให้สะอาดก่อนที่จะจับใบหน้าของตัวเองทุกครั้ง
-งดใช้โฟมล้างหน้าที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม
-หลีกเลี่ยงแสงแดดหรือทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง
-เช็ดเครื่องสำอางก่อนล้างหน้าทุกครั้งและห้ามนอนโดยที่ยังแต่งหน้าอยู่
💡วิธีรักษาสิวหัวดำ
– ยาบีพี(Benzoylperoxide–BP)สามารถช่วยลดสิวอุดตันได้ในระดับปานกลางมีอยู่หลายยี่ห้อด้วยกันเช่นBenzacAC,Enzoxid,Brevoxyl(Waterbased),PanOxyl(Alcoholbased),ACNEXYL(เนื้อเจล)วิธีใช้นั้นแสนจะง่ายเพียงทาให้ทั่วหน้าก่อนจะล้างหน้าในช่วงเช้า-เย็นโดยให้ทาทิ้งไว้ราวๆ10นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดโดยเจ้าตัวยานี้จะออกฤทธิ์ไปลดการอุดตันของต่อมไขมันทำให้ไขมันที่อุดตันจะถูกละลายและสามารถกดออกมาได้โดยง่ายสำหรับใครที่เริ่มใช้ให้เริ่มจากสูตรอ่อนโยน2.5%ก่อนจากนั้นจึงค่อยขยับเป็น5-10%เมื่อใบหน้าชินกับตัวยาแล้ว
-ใช้สกินแคร์ที่มีAHA(Glycolicacid)และBHA(Salicylicacid)โดยเจ้าAHAจะช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วช่วยป้องกันการเปิดสิวและBHAสามารถละลายไขมันในรูขุมขนที่สามารถช่วยลดการเกิดสิวอุดตันได้
2.สิวหัวขาว(Whiteheads)
เป็นสิวอุดตันคล้ายๆกับสิวหัวดำแต่สิวชนิดนี้จะไม่มีทางออกมามีลัษณะเป็นตุ่มนูนเล็กๆแต่ไม่มีหัวสิวสิวอุดตันประเภทนี้มีสิทธิจะลุกลามไปเป็นสิวอักเสบได้สูงมากเพราะฉะนั้นงดล้วงแคะแกะเกานะแล้วก็อย่าบีบสิวด้วย
💡วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวขาว
-ใช้ผลิตภัณฑ์หรือสกินแคร์ที่ช่วยควบคุมหรือลดการผลิตน้ำมันบนผิวหน้า
-ใช้ผลิตภัณฑ์หรือสกินแคร์ที่ช่วยลดการอุนตันบนในหน้าปรับสภาพรูขุมขน
💡วิธีรักษาสิวหัวขาว
ใช้“เซรั่มละลายสิว”จนกว่าหัวสิวจะเปิดจากนั้นให้ทำการกดออกมา
‼️สิวอักเสบ(inflammatoryacne)
สิวอักเสบสามารถแบ่งออกได้เป็น4ประเภทใหญ่ๆดังนี้
1.สิวที่มีตุ่มนูนแดง(Papule)
สิวตุ่มนูนแดงจะมีขนาดเล็กไปสิวที่เริ่มอักเสบในช่วงแรกๆหลังจากพัฒนามาจากสิวอุดตันไม่มีอาการเจ็บปวด
💡วิธีรักษาสิวตุ่มนูนแดง
ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยนและห้ามเป็นสูตรที่มีสครับผิวเพราะจะทำให้เกิดการอักเสบเพิ่ม
2.สิวหัวหนอง(Pustule)
หลายๆคนน่าจะค้นเคยกับสิวชนิดนี้กันเป็นอย่างดีเพราะเป็นกันบ่อยมากๆโดยจะมีลักษณะตุ่มๆแดงและมีหัวสีเหลืองเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนรุนแรงกว่าแบบตุ่มนูนแดง
💡วิธีรักษาสิวหัวหนอง
-ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยนและห้ามเป็นสูตรที่มีสครับผิวเพราะจะทำเกิดการอักเสบเพิ่ม
-ใช้ยาแต้มสิววันละ2-3ครั้ง
3.สิวอักเสบขนาดใหญ่(Nodule)
สิวชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นตุ่มแดงขนาดใหญ่ใต้ผิวหนังที่สามารถสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ที่เป็นอย่างมากมักจะเกิดจากการกดบีบสิวตุ่มนูนแดงทำให้แบคทีเรียและน้ำมันแตกระจายอยู่ใต้ผิวหนังเพราะฉะนั้นถ้าใครไม่อยากเป็นอย่าบีบสิวอักเสบระยะแรกอย่างเด็ดขาด
💡วิธีรักษาสิวอักเสบขนาดใหญ่
-ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยนและห้ามเป็นสูตรที่มีสครับผิวเพราะจะทำเกิดการอักเสบเพิ่ม
-ใช้ยาแต้มสิววันละ2-3ครั้ง
4.สิวหัวช้าง(Cyst)
สิวหัวช้างเป็นสิวที่มีการอักเสบรุนแรงที่สุดเกิดในบุคคลที่มีผิวหน้าที่มันมากๆจะมีกลักษณะเป็นตุ่มใหญ่ๆทั่วใบหน้าโดยมีกจะเป็นสิวอักเสบที่มาดามกล่าวมาทั้งหมดมาจับกลุ่มรวมกันหัวสิวมักจะแตกมีเลือดและหนองใหลมันจะทำให้เกิดหลุมสิว
💡วิธีรักษาสิวหัวช้าง
สิวหัวช้างไม่ควรรักษาเองเพราะมีสิทธิจะกลายเป็นหลุมสิวขนาดใหญ่แนะนำว่าให้รีบไปพบแพทย์จะดีที่สุด
💡วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวอักเสบ
เนื่องจากสิวทั้ง4แบบเป็นสิวอักเสบเหมือนกันดังนั้นจึงมีวิธีการป้องกันที่เหมือนกันดังนี้
-ล้างหน้าให้สะอาดอยู่เสมอใครที่ผิวแพ้ง่ายให้ใช้โฟมล้างหน้าที่มีความอ่อนโยน
-ล้างมือให้สะอาดก่อนที่จะจับใบหน้าของตัวเองทุกครั้ง
-ใช้โฟมล้างหน้าที่ควบคุมความมันบนใบหน้าและยังให้ความชุ่มชื้นกับผิวอยู่
-หลีกเลี่ยงแสงแดดหรือทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง
-เช็ดเครื่องสำอางก่อนล้างหน้าทุกครั้งและห้ามนอนโดยที่ยังแต่งหน้าอยู่
-ระวังการเลือกแชมพูสระผมหรือห้ามให้ยาสระผมโดนหน้าเพราะบางสูตรจะมีส่วนผสมของน้ำมันที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว
-หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางในขณะที่เป็นสิว(ก่อนจะอักเสบ)หรือทาทับบริเวณที่เป็นสิว
ขอบคุณข้อมูลจากCentralและภาพน่ารักๆจากPrinterest
5:5 พฤติกรรมทำให้เกิดสิว💥
สวัสดีค่าาวันนี้ออมมีทริคเล็กๆน้อยๆพฤติกรรมพื้นฐานจากการเกิดสิวสิวที่อยู่บนใบหน้าของเรานั้นอาจเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันมากมายทำให้หลายๆครั้งการจัดการสิวให้หมดไปจึงทำได้ยากเพราะจัดการสาเหตุหนึ่งก็ยังมีสาเหตุอื่นหลงเหลืออยู่
💥1.ไม่ขับถ่าย
การไม่ขับถ่ายทำให้ท้องผูกหรืออั้นปัสสาวะจะทำให้ร่างกายต้องดูดซึมสารพิษกลับเข้าสู่ร่างกายและขับออกทางผิวจึงทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
💥2.การดื่มน้ำน้อย
การดื่มน้ำน้อยทำให้ร่างกายขับสารพิษจากเนื้อสัตว์ของทอดสารปรุงแต่งรสออกได้น้อยลงจึงทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น
💥3.พักผ่อนน้อย
การพักผ่อนไม่เพียงพอมีผลต่อระบบร่างกายทั้งระบบโดยเฉพาะระบบหมุนเวียนเลือดและน้ำเหลืองสังเกตว่าเวลาที่เราอดนอนผิวหน้าหยาบกระด้างหน้ามันเยิ้มรูขุมขนกว้างและมีสิวขึ้น
อีกทั้งพักผ่อนน้อยยังทำให้ภูมิคุ้มกันน้อยลงด้วย
💥4.ความเครียด
ความเครียดถือเป็นพฤติกรรมยอดฮิตจะสังเกตเห็นว่าในช่วงสอบหรือในช่วงที่ต้องเร่งส่งงาน
เราจะมีโอกาสเป็นสิวเพิ่มมากขึ้นเพราะเมื่อเราเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนCortisolออกมา
ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นจึงยิ่งทำให้เป็นสิวมากขึ้น
💥5.ความสะอาด
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำความสะอาดไม่สะสมเชื้อสิวควรเปลี่ยนปลอกหมอนผ้าเช็ดตัวและผ้าเช็ดหน้าบ่อยๆและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวหน้า